start-peugeot.com
เว็ปบอร์ด => คุยกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ธรรม-webmaster ที่ ธันวาคม 13, 2017, 01:50:56 PM
-
จั่วไว้ก่อน อิอิ
-
อินทนนท์ใครก็รู้จัก มันเป็นจุดหมายที่ใครก็อยากพิชิตไม่ว่าจะเป็นการเดินทางแบบใหนๆก็ตาม เพื่อนๆว่าจิงมั๊ย เพราะมันเป็นเขาที่สูงที่สุดในเมืองไทย
ในอดีตผมก็ขึ้นมาหลายครั้งแระ แต่ด้วยรถยนต์นะ มารอบนี้....จักรยานครับ มันเป็นเส้นทางที่นักปั่นพูดถึงกันมากที่สุดครับ วันนี้ผมจะลองของว่าที่เราปั่นมา2-3ปีจะเป็นยังงัยถ้าต้องปั่นขึ้นอินทนนท์ มาดูกันครับ
-
เนื่องจากเวลาว่างน้อย ประกอบกับเงินไม่ค่อยมี (อย่างหลังสำคัญสุด) ทริปนี้แปลนคร่าวๆกันแค่3-4วันครับ ผู้ร่วมทริปจากที่คุยๆกัน5คน แต่สุดท้ายเหลือ3คน 2คนติดภารกิจ
ขอแนะนำตัวละครหน่อยครับ
ป๋าแฮปเท้าเสือ (รองเท้าลูกเสือ) ผู้ที่มีเทคนิคการปีนเขาปีนเนินที่เก่งที่สุดของกลุ่ม แต่การปั่นหนีเมียเที่ยวแย่สุดในกลุ่มครับ...นี่ครับ แฮปเท้าเสือ
.
.
.
-
อีกท่านครับ......
.........ป๋าเหมียน ผู้อาวุโสสุดของกลุ่ม อีกไม่กี่เดือนก็แซยิด วันนี้ถือโอกาศมาปล่อยพลังโชว์ลูกหลานกันครับ เวลาขึ้นเขาป๋าแกบอกไม่สู้แต่ถ้าช้างเต็มตู้แกคือผู้นำเพียงคนเดียวครับ
ถนัดทางราบ อึด ทนนาน ไม่ต้องพึ่งไวอากร้าครับ ถ้ามีช้างข้างหน้าแกสู้ไม่ถอยจริงๆ ยอมเลย...
.
.
.
-
อีกคนก็ผมงัย........
ตาธรรม เรื่องดื่มเรื่องกินนานน๊าน...ถึงจะได้เว้นซั๊กที เรื่องปั่นปั่นทุกวันถ้าไม่ดื่ม สรุป ดื่มมากกว่าปั่น แถมขยันโทรชวน(ชวนป๋าๆ2คน) มันก็เพื่อสุขภาพนั่นแล๊ะ....
.
.
.
-
สำหรับจักรยานที่ผมเอาไปเป็นจักรยานพับKHSล้อ20นิ้วนะครับ อยากลองของ อิอิ
โมชุดขับเล็กน้อย เริ่มจากเปลี่ยนจานหน้าเป็นแบบ3ใบ 50-34-26 เปลี่ยนเฟืองหลังใส่11-34แทนของเดิม นอกนั้นเดิมๆ
น้ำหนักรถ+สัมภาระ 35โล
น้ำหนักรถ+ของ+คน 101โลครับ
-
ทริปนี้เริ่มจากวันที่7/12/60 เราเดินทางจากกทม.โดยรถไฟนะครับ ปั่นไปขึ้นรถไฟที่หัวลำโพง รถเร็วขบวน109 รถออก13.45ครับ
วันนี้เมียผมคดข้าวห่อให้เอาไปกินบนรถไฟครับ ประหยัดตังค์เพื่อเอาไว้ไปซื้อเบียร์ครับ......
-
เมารถไฟกันไปถ้วนหน้า รถไฟไทยมันโคลงเก่ง ตื่นเต้นด้วย เลยไม่ค่อยได้หลับนอนกัน
ถึงเชียงใหม่ตี4 5นาที ตรงเวลาเป๊ะครับ วันนี้มีพี่ชายสุดหล่อหน้าตาดี ไม่ขี้เหล้าขี้ยาเหมือนกันมารับที่เชียงใหม่ ป๋านกนั่นเอง.........
วันนี้ป๋าแกจะพาเราขึ้นปิคอัพไปส่งตีนดอยครับ
-
เรามาถึงปั๊มปตท.จอมทองประมาณ6โมงเช้า เตรียมแพ็คของหาไรรองท้อง 7โมงก็ล้อหมุนครับ
ปั๊มนี้สะดวกดีครับ อยู่ก่อนถึงแยกขึ้นดอยไม่กี่เมตร ซ้ายมือถ้ามาจากเชียงใหม่
เราแยกกับป๋านกที่นี่ ขอบคุณป๋านกมาณ.ที่นี้ด้วยครับ จริงๆแล้วแกต้องมาปั่นกะเราด้วย แต่แกเพิ่งนึกได้ว่ายังปั่นจักรยานไม่เป็น ไม่เป็นไรเอาเป็นว่ารอบหน้าแล้วกันนะป๋า
-
นับจากด่านแรกก็อีก40โลก็จะถึงจุดสุดยอดครับ แต่แค่เนินหลังด่านเนินแรกนี่ก็แทบอ๊วกแล้วครับ ชันมาก ประคองไม่ดีล้อหน้ามียก ก็แต่ละคนของเยอะซะขนาด
นี่เอาออกไปเยอะแล้วนะ ไม่งั้นมีเห็นหม้อ กะทะ กะละมังอย่างแน่นอน ผ่านเนินแรกมาจากนั้นก็เป็นเนินซึมๆ เรื่อยๆ ให้เราได้ผ่อนคลายก็หลายโลอยู่ครับ
ผ่านหมู่บ้านปะกากะญอ(ไม่รู้ผมจำผิดป่าว) ก็จะเจอป้ายว่า....ทางคดเคี้ยวขึ้นเขา3โล เท่านั้นล่ะ ก้มหน้าซิครับ นับเม็ดเหงื่อ แรกๆก็นับทัน หลังๆมันมาเป็นสาย
-
ไปถึงใหนแล้ว อ้อ......
เนินแล้วเนินเล่า ผ่านการซ่อมถนน ทำทาง ยิ่งเพิ่มความยากให้เราเข้าไปอีกครับ ไหล่ทางก็แค๊บแคบ
ผมก็ศึกษาเส้นทางก่อนมาเยอะอยู่ เค้าบอกว่าจากด่านแรกมาถึงที่ทำการ 30กม.สบายๆ ไม่ยาก แต่.....ผมว่าเค้าหลอกครับ เพราะจากป้ายที่เขียนว่า ทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ผมยังไม่เจออะไรง่ายเลยครับ ยิ่งเนินท้ายๆก่อนที่ทำการฯนี่ขอบอก....แหม็ดชาดดดดด.....
-
11โมงตรงเผงพวกผมก็ถึงที่ทำการอุทยานครับ อากาศเย็นสบาย 21องศา แต่เหงื่อไหลโชกครับ 30กม.ใช้เวลาไป4ชม. บอกตรงๆนะ น้ำตาแทบร่วง เราทำได้ขั้นนึงแล้ว มันโหดกว่าทุกที่ๆผมเคยไปมา เขาใหญ่ แพร่ น่าน ก็ไม่โหดเท่า
ทุกคนมองหน้ากันตาปริบๆ แล้วไอ้ที่เค้าบอกว่า 16กม.ต่อจากนี้จนถึงยอดโหดของจริงล่ะ เราจะรอดมั๊ย........?
ฉะนั้นเราจึงตกลงกันที่จะปลดสัมภาระบางส่วนไว้ที่นี่ครับ รวมทั้งปักเต็นท์เอาของเก็บไว้ที่นี่เลย ตรงข้ามที่ทำการอุทยานชื่ออะไรนะ เค้ามีที่กางเต็นท์ มีห้องน้ำสะดวกสบาย เราเอาของไว้ที่นี่ละ เอาเฉพาะที่จำเป็นปั่นขึ้นพอ
-
ขอเบรคแป๊ป พอดีมีลูกค้ามาขอซื้อจักรยานพับคันที่ผมปั่นขึ้น
-
อะ ต่อกันเลย......
เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าชู้รัก.......
ขายไปแล้วครับ เจ้าโคถึก
ต่อกันเลยครับ หลังจากที่เรากางเต็นท์ เก็บข้าวของเสร็จ 12:20 ก็ได้เวลาออกปั่นต่อเพื่อพิชิตยอดดอย อีก16กม.หฤโหดที่เค้าร่ำลือกัน
-
ต่อจากนี้.......ชัน.....ชันแล้วก็ชัน แถมสภาพถนนสุดเลวร้าย มีลอกถนน กำลังราดยางมะตอยแฉะๆ ไหล่ทางเต็มไปด้วยหินกรวด เอ้อ เอาเข้าไป ผ่านไป3-4โลป๋าเหมียนแกบอกไม่ไหวแล้ว ตาลายหิวช้าง ปั่นต่อไม่ไหวเห็นหัวเพื่อนร่วมทีมเป็นฝาขวดช้างแล้ว ขอลงไปรอที่ทำการก่อนแล้วกัน ครับป๋า ไม่เป็นไรครับ งั้นป๋าจัดไก่ย่าง1ตัวบูชาช้างด้วยนะครับ
-
แป๊ปนึง เบียร์หมด
-
หลังจากที่ป๋าเหมียนกลับไปเตรียมกับแกล้มแล้ว ก็เหลือผมกะป๋าแฮป2คนที่ไปกันต่อ
ผ่านด่าน2ก็เหลือระยะทางไม่ไกลแระ ไม่เกิน10โลก็ถึงแระ
ช่วงจากด่าน2ความชันเริ่มลดลงไปนิดนึง มองเห็นพระธาตุอยู่ไม่ไกล ปั่นไปอีกนิดความชันก็เริ่มมาอีกแระ ผมเหลือบมองเห็นหลักกิโล บอกว่าอีก7โลแล้วพี่น้อง
จากนั้น........ชัน จนถึงชันโคตร......พระธาตุที่เห็นว่าใกล้ตอนนี้หายไปใหน ที่ผมเจอมีแต่ปลายรองเท้าผมพร้อมกับหยดเหงื่อปานฝนตก
และแล้วโค้งแห่งนั้น.......หักแล้วเด้งขึ้น รูปแบบการปั่นผมตกเลยต้องเปลี่ยนเป็นปั่นแบบขาติดดิน (บ้านผมเรียกรุน) ไม่ไหวจริงครับ กดไปล้อหน้ายก กลัวพี่ตำรวจแจ้งความขับรถโดยประมาท เข็นก็เข็นซิครับ เข็นจากจุดหลักกิโล7กิโล ผ่านหน้าพระธาตุ ผ่านผู้คนที่มากะรถยนต์จอดรถถ่ายรูปวิวกันชิวๆ เห็นเราเข็นผ่านอย่างน่ารักน่าดูเอ็น แต่เราก็มิได้แคร์ เข็นมาอีกนิดพอปั่นได้ ก็ปั่นถึงกิ่วแม่ปานครับ
-
ที่กิ่วแม่ปาน ตอนนี้ก็ บ่าย3 10นาที ตะคริวผมมาเรียบร้อยครับ มันมาครั้งแรกตอนก่อนถึงด่าน2 ตอนนั้นเป็น1ข้าง แต่ตอนนี้มันมาครบ2ข้างแล้วครับ
แง้.........ตรูจะบ้าตาย......เหลืออีก5โลเท่านั้น ที่สำคัญนะ.......ตอนนี้ฝนตก!........เอางัยดี ยอมดีฝ่าตรู ไม่ไหวแล้ว
-
ระหว่างนั่งพักหลบฝน ผมถามป๋าแฮปว่าเอางัยดี ผมยอมไม่ไหวแล้ว ป๋าแกบอก อีก5โลเอง แต่......ทุกอย่างเงียบสงบไม่มีใครพูดต่อ.....
....ผมรอที่นี่แล้วให้ป๋าแฮปลุยเดี่ยว (อันนี้ผมคิดในใจ)......นั่งไปซั๊กพักใหญ่ๆ อาการตะคริวเริ่มดีขึ้น ผมเริ่มถามป๋าแฮปอีกครั้ง ป๋าๆ....ลุยมั๊ย แกบอก...ปะ
ลุยก็ลุยครับ เหลืออีก5โลเอง.....ออกจากกิ่วแม่ปาน ได้ปั่นแค่กิโลแรกครับ หลักกิโลบอกเหลือ3โล หลังจากนี้...รุนครับ......คราวนี้มันไม่ได้ชันโคตรๆ แต่มันชันเฮียๆ.....ฝนก็ดันตกมาอีก ไอ้แหย็ดแหม๋มมมม........
เข็นแล้วก็เข็นครับ เหนื่อย หนักกว่าปั่นเยอะเลยครับ ขา เข่าเปลี้ยไปหมด เราผ่านทางแยก TOT เข็นยาวอีกเกือบกิโล หลังจากนั้นก็ขึ้นปั่นได้ครับ ตอนนี้จุดหมายเราเหลือระยะทางโลฝ่าๆแล้วครับ
-
กิโลสุดท้ายแล้ว......เย้ห์.......เราก็ถึงจนได้ครับ....ณเวลานี้ 16:50 ก็เท่ากับว่าเราถึงกิ่วแม่ปานบ่าย3 ถึงจุดสูงสุด 5โมง เราใช้เวลาไป2ชม.กับระยะทาง5กม.ครับ
หรือจากที่เราเริ่มปั่น 7โมงเช้า มาถึงยอด5โมงเย็น เราใช้เวลาไปทั้งหมด 10ชม.ครับ ตู้หู...........แล้วไอ้ฝรั่งเจ้าของสถิติ2ชม.นี่มันปั่นยังงัยฟระ
ขาลง จัดกระเป๋าใหม่ โอ้โห้ มันหนักใช่ย่อยแฮะ ว่าไม่เอาอะไรขึ้นมาแล้วมันก็ยังเป็น10กิโลอยู่ดี ไม่รู้จะพกอะไรมานักหนา
ตอนนี้ตะคริ้วผมหายแต่เข่าผมเดี้ยงสนิท แต่ขาลงคงไม่เป็นไร
ขาลงผ่านหน้าพระธาตุมาหน่อย ยางผมแตก เปลี่ยนยางเสร็จ รูดมาต่อ ถึงที่ทำการก่อน1ทุ่ม
-
ลงมาที่ทำการ ช้าง1จำนวน กับกับแกล้มอีก1ขนานป๋าเหมียนได้จัดเตรียมเป็นที่เรียบร้อย แต่.....ผมกินไม่ลงครับ ระบมไปทั้งตัว กังวลเป็นที่สุดว่าพรุ่งนี้จะไปต่อยังงัย
ป๋า2คนสดครับ จัดกันจนดึก ตาธรรมได้แต่นั่งมอง มีเต็นท์ข้างๆเข้ามาคุยด้วย "น้องๆ นี่ใช่2คนที่รุนกันอยู่ข้างบนเมื่อเย็นใช่มั๊ย ".......รู้เลยคนเหนือชัดๆ
.........วันที่9/12/60 ตื่นเช้ามา เช็คอุณหภูมิ 14องศา กำลังสบายครับ เช้านี้เราจะลงดอยกัน กลับทางเดิม มุ่งหน้าเข้าเมืองเชียงใหม่ครับ กะไปหาที่ปักเต็นท์เอาข้างหน้า
จัดอาหารเช้า(ที่เหลือจากเมื่อวาน)เสร็จก็ปั่นลงครับ ขาลง ยังมิวาย ยางผมแตกอีก1วงครับ
-
ตอนนี้อาการปวดเข่าเข้าขั้นวิกฤติครับ กดไม่ได้เลยปวดมาก มาถึงข้างล่างเลยปรึกษากันใหม่ เอางัยดี ผมไปต่อไม่ไหวแน่ ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนครับ ปั่นเข้าเมืองลำพูนแทน
จากจอมทองมุ่งหน้าสถานีรถไฟเพื่อเลื่อนตั๋วให้เร็วขึ้น ปรากฎว่า เลื่อนได้ครับ ได้ขบวนรถด่วน52ที่ออกมาจากเชียงใหม่15:30
ณ.เวลานี้บ่าย2เกือบจะบ่าย3 จัดของล้างหน้าล้างตารถไฟก็มาถึง ไม่ได้ซื้ออาหารไปกินกันบนรถไฟเลยครับ
-
เดชะบุญครับ รถไฟแวะจอดลำปางนาน เราเลยได้ลงไปซื้ออาหารมากินกันบนรถไฟ ฉลองปิดทริปกันแบบอร่อยๆครับ
รถไฟถึงกทม.เช้า ตี5กว่าๆ ปั่นกลับบ้านใครบ้านมัน เป็นอันจบทริปครับ
-
นี่ละครับ อินทนนท์ โหดสมคำร่ำลืมจริงๆครับ ฟังแต่คนอื่นเล่าให้ฟัง ได้แต่นั่งมโนครับ
ผมก็ว่าผมซ้อมเยอะแล้วนะ ซ้อมแต่ละครั้งต้องมี50โลอัพ ไม่พอครับ
รอบหน้า เอ๊ย...ไม่เอาแล้ว...หลาบ ครั้งเดียวก็เกินพอ ไม่ไปแล้ว(ถ้าไม่มีใครชวน..อุอุ)
ขอบคุณ...ป๋าแฮป ป๋าเหมียน ป๋านก ขอบคุณผู้ติดตาม แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้านะคร๊าบบบบบบบ........
-
งานประจำปีปั่นขึ้นอินทนนท์เค้าก็มีนะ จัดปั่นขึ้นปีละครั้ง เกือนกพ.ถ้าจำไม่ผิดวันที่11 ปลอดภัยจากรถยนต์เพราะมีแต่จักรยาน
ผู้สนใจลองหาข้อมูลดูครับ
-
ต้องเอาคันนี้ประจำการแทนละ
-
การเอาจักรยานพับออกทัวร์ริ่งมันก็ดีนะครับ คล่องตัว ขึ้นลงง่ายเพราะท่อกลางมันต่ำ คันของผมจุดพับโต แข็งแรงเวลาบรรทุกหนักไม่ย้วย
แล้วก็ท่านั่งที่ปั่นสบายไม่ต้องก้มมาก มือไม่ชา
แต่ข้อเสียมันก็มีนะผมว่า ถ้าเอาไปออกทริปขึ้นเขาชันๆแบบอิทนนท์นี่ผมว่าไม่เหมาะ ตำแหน่งจานหน้ามันจะเยื้องไปข้างหน้า ทำให้แรงกดจากขาจะน้อยกว่ารถใหญ่
ประมาณนั่งขี่ช๊อปเปอร์ และเวลากดหนักๆขึ้นเนินชันๆหน้าจะลอยทุกครั้ง คอนโทรลลำบากจริงๆเลย
-
สดยอดครับป๋า..............ไปจนถึงจุดสุดยอดได้
นับถือ ๆ
ขอคาระวะหลาย ๆ จอกเลย
-
สดยอดครับป๋า..............ไปจนถึงจุดสุดยอดได้
นับถือ ๆ
ขอคาระวะหลาย ๆ จอกเลย
ขอบคุณครับ ก็เกือบไม่ถึงเหมือนกันครับ