start-peugeot.com
เว็ปบอร์ด => คุยกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ธรรม-webmaster ที่ ตุลาคม 27, 2017, 08:40:58 AM
-
จริงๆไปกันมาตั้งนานแล้วล่ะ ตั้งแต่ก่อนสงกรานต์โน่น แต่เนื่องจากเว็ปผมพื้นที่มันเต็มเลยไม่ได้โชว์ซั๊กที
ตอนนี้ผมเพิ่มพื้นที่ได้อีกหลายเท่าตัว หมดห่วงเรื่องพื้นที่เต็มแล้วครับ ขอจับทริปที่ผ่านมาลงหน่อยครับ เผื่อเพื่อนๆอยากจะมาปั่นกะเราบ้าง
-
ทริปหลังๆจะเป็นทริปปั่นซะส่วนใหญ่ ทริปไปกะเปอโยต์ไม่ค่อยมีแระ หมดยุค หมดตังค์ หมดเพื่อน ที่มีก็ไปสายอื่นกันไปหมดแระ สายแรด สายป๊อด สาย....สลายโต๋...อุอุอุ
จะมีก็สายปั่นขยันซอยนี่ละครับที่ยังมีทริปบ่อยๆกันได้อยู่ ประหยัด ได้เที่ยว ได้สุขภาพ ร่างกายแข็งแรง จริงๆนะ
ทริปนี้ เกิดขึ้นเมื่อตอนวันหยุดยาวก่อนสงกรานต์60ที่ผ่านมาครับ ก็อากาศมันร้อนเลยอยากจะขึ้นเหนือ เค้าว่าเหนือไม่ร้อนครับ
ทริปนี้ไปคัน4คนครับ มีผม ป๋าเหมียน ป๋าแฮป และเจ้าหนุ่ย เดิม3แต่ใหม่1 เจ้าหนุ่ยเด็กใหม่ครับเรียนม.3เท่าลูกสาวผมเลย ลูกป๋าซิกคนในวงการเปอโยต์คงรู้จักดีครับ ส่งลูกมาเข้าประกวด
นี่ครับป๋าแฮป
-
เจ้าหนุ่ยครับ
-
ป๋าเหมียน
-
และก็ผมงัย
-
ผม ป๋าแฮปและเจ้าหนุ่ย จะเอาจักรยานใส่รถไฟ แล้วก็ไปเจอป๋าเหมียนที่บ้านปินอ.ลอง แพร่ครับ
ก่อนไปขึ้นรถไฟก็นัดเจอ2คนที่ว่าที่เต็นท์ผมครับ เจ้าหนุ่ยมาก่อน ผมเห็นรถแล้วต๊กกะใจ
"เฮ๊ย....ทริปเหนือมีแต่เขาทั้งนั้นเลย รถแกจานหน้า2ใบจะไหวเหรอวะ" เด็กบอกไหวๆ เอา ลองดู เด็กๆแรงดี น่าจะได้นะ
ส่วนของผมทริปนี้รถเบากว่าทริปที่แล้วครับ น้ำหนักรถ+สัมภาระ 35โลเอง แต่หัวใจความแรงอยู่ที่รองเท้าจอมพลังคู่เดิมครับ ไม่ว่าทริปใหนเจอคู่นี้ ผ่านครับ
-
เริ่มเลยครับ วันที่ 1 10/4/60 ปั่นจากต๊าดถึงหัวลำโพง ขึ้นรถด่วนขบวน51 กทม.-เชียงใหม่(ลงบ้านปิน) ชั้น3พัดลม ออก22.00น.ครับ
ค่าระวางจักรยาน 90บาทครับ ออกจากหัวลำโพงก็หลวมๆ แต่ผดส.ก็ขึ้นมาเรื่อยๆครับ
-
11/4/60 บ้านปิน-เนินแพร่(เนินคัดตัวแก็งค์ริมมอร์)-แพร่-พระธาตุช่อแฮ-บ้านนาตอง
รถไฟต้องเข้าที่บ้านปิน 7.55ครับ เอาจริงเลทไป30นาทีครับ ถือว่ารับได้
-
ที่บ้านปินเราก็ได้นัดกับหัวหน้าแก็งค์เราครับ ป๋าเหมียน....
ป๋าเหมียนพาเราวนไปชมร้านกาแฟแห่ระเบิด ร้านดังของอ.ลองเค้าเลยล่ะ
-
จากกาแฟแห่ระเบิดก็แวะกินข้าวเจ้าประจำกันครับ เติมพลังเต็มที่ หนทางข้างหน้ายังอีกไกลครับ
ออกจากร้านข้าวปั่นมาเส้นลอง-แพร่ ผ่านมา10กม.ก็จะเป็นทางขึ้นเขา แต่เนินแรกนี่มันไม่ธรรมดาครับ ผมเคยสัมผัสเนินนี้มาแล้วเมื่อทริปที่แล้ว เลยเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว
แต่เจ้าหนุ่ยเด็กใหม่จะผ่านมั๊ย จะบอกว่าครั้งแรกที่ผมปั่นขึ้นเนินนี้แทบอยากกลับบ้านซะตั้งแต่ตอนนั้นเลยครับ เขาใหญ่ก็เคยปั่น หนัก เหนื่อย แต่ก็ขึ้นได้ แต่เนินแพร่...ขุ่นพระ...จานหน้า3ใบยังไม่พอเลยครับ ข้าวกินมาเมื่อ10กม.ที่แล้วมันจัดระเบียบจะออกมาใหม่ครับ
มาวันนี้เด็กใหม่ยังเจ้าหนุ่ยผมก็บอกเค้าก่อนขึ้นเนินว่า "หนุ่ย ถ้าขึ้นเนินไม่ต้องรอกันนะ แรงใครแรงมัน ถ้าเร็วกว่าก็ไปรอบนเนิน" หนุ่ยบอก คับๆ
พอจะถึงเนินผมก็บอก "เฮ้ยหนุ่ย เนินที่ว่าอยู่ข้างหน้านะ"... เท่านั้นแหล่ะเจ้าหนุ่ยมันแซงลุงๆไปหมดเกลี้ยงเร่งสปีดเต็มแม็กซ์ขึ้นเนิน.....เฮ๊ย....
ลุงๆแต่ละคนมองตาปริบๆ....มันขนาดนี้เลยรึ.....ลุงๆด้วยประสบการณ์ก็ค่อยเปลี่ยนเกียร์ปั่นช้าๆเนิบๆขึ้นเนินกัน เห็นเจ้าหนุ่ยขึ้นเนินอยู่ลิบๆ
ผ่านมาแค่อึดใจเดียว ทันเจ้าหนุ่ยครับ น้องใหม่เสร็จคานม เอ๊ยคาเนิน เข็นซิครับหนุ่ย กลัวไร กว่าจะถึงยอดเนิน
ผมถามหนุ่ย "เฮ้ย ไหวป่าว ทำไมเร่งสปีดอย่างนั้นล่ะ ที่ลุงๆบอกว่าไม่ต้องรอแรงใครแรงมันไม่ใช่ให้แกเร่งส่งเนินอย่างนี้ เนินมันชัน มันจะหมดคาเนินเอา ป๊าดดดด...."
5555.....
นี่ล่ะครับ เนินคัดตัวของแก็งค์ผม เด็กใหม่ครั้งแรก โดนทุกคน (ผมก็โดนมาแล้ว).....อิอิ
หลังจากผ่านเนินคัดตัวนี้แล้วก็สบายแระ ขึ้นเรื่อยๆ ไม่ชันเหมือนเนินแรก
เสียดายฉากนี้ไม่มีรูป
-
หลังจากผ่านเนินหฤโหด เจ้าหนุ่ยบอกสบายครับลุงๆ....ผ่านครับ ปั่นไปเรื่อยๆ หยุดพักบ้าง ไม่นานก็ถึงตัวเมืองแพร่ครับ แวะกินข้าวเที่ยงข้าวแกงใต้ที่เผ็ดขนาด
ผมสงสัยจริงๆ คนในพื้นที่เค้าจะกินกันยังงัย ผมคนใต้เองยังเผ็ดแทบพ่นไฟ
ปั่นฝ่าตัวเมืองแพร่มุ่งหน้าสู่วัดพระธาตุช่อแฮครับ วัดดังเมืองแพร่
แต่จุดพักแรมวันนี้ต้องไปอีกครับ บ้านนาตอง ก่อนถึงวัดเราก็ได้แวะซื้อเสบียง โดยเฉพาะซ๊อสปรุงรสครับ เค้าบอกข้างหน้าหาซื้อยาก
จัดมาเต็มลังครับ 12ขวด โดยป๋าแฮปอาสาบรรทุกให้ครับ แกบอกรถแกหลังมันไวๆอยากหาไรถ่วงน้ำหนักเล่น ป๋าแกได้น้ำหนักเพิ่มไปอีก13โล นิ่งเลยครับ
-
ได้ซ๊อสปรุงรสอย่างที่ต้องการก็ปั่นไปวัดกันครับ วัดพระธาตุช่อแฮ แต่วันนี้ขอถ่ายรูปแต่ด้านหน้าครับ สัมภาระเยอะ......
จากสถานีรถไฟบ้านปินมาถึงวัดตอนนี้ผ่านมาแล้ว 47กิโลครับ เส้นมาวัดผมยางรั่วไป1ครั้ง
ที่หน้าวัดก็ถ่ายรูปกันนิดหน่อย
เสร็จก็มุ่งหน้าสู่บ้านนาตองครับ อีกประมาณ20กว่าโล
-
เส้นจากวัดพระธาตุช่อแฮถึงแยกเข้าบ้านนาตองเป็นทางขึ้นเขาเรื่อยๆครับ ไม่ชันเหมือเนินแพร่ ข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหารที่มีโต๊ะนั่งแช่เท้ากันหลสายร้านครับ
แต่ไม่ใช่จุดหมายเรา เราผ่านครับ แต่.....อากาศตอนนั้น.....ร้อนชิบหาย.....
ยิ่งป๋าแฮปได้ซ๊อสปรุงรถไป1ลังแกปั่นนำหน้าหายไปกะเจ้าหนุ่ยครับ ทิ้งผมกะป๋าเหมียนปั่นหอบแดดข้างหลังลิบๆ
สุดท้ายก็ต้องตะโกนอย่างสุดเสียงว่า...."ช่วยหยุดหน่อยเต๊อะ....ผมจะละลายแล้วก๊าบบบบบ....." จะรีบไปใหนก้านนนนนน
นั่นละครับถึงได้รอ ไม่งั้นหาย.....
นี่ครับ ข้างทางเจอลำธารสายเล็กๆ จอดเหอะ ผมไม่ไหวแล้ว ขอลงไปแช่ก่อนนะ....
-
ได้เปียก ค่อยสดชื่นมาหน่อยครับ ปั่นขึ้นไปเรื่อยๆซั๊กพักก็ถึงแยกที่จะเข้าบ้านนาตองจุดหมายแรกของเราครับ
บ้านนาตองนี่เค้ามีเต่าตะนอยเป็นสัญญลักษณ์ เป็นเต่าประจำถิ่นที่มีหางยาว
แวะถ่ายรูปที่ทางแยกเข้าบ้านนาตองครับ
จากแยกนี้ปั่นไปอีก8กม.ก็จะถึงบ้านนาตองแล้วครับ ....เย้ห์.....
-
ป๋าเหมียนโทรถามทางจากโฮมสเตย์ที่เราจะไปพักอีกครั้งเพื่อความชัวร์ ก็ได้ความว่าอีก8โลที่เหลือทางขึ้นเนินนิดเดียวจากนั้นลงเขาตลอดจนถึงบ้านนาตองเลยครับ
สบายแระ วันนี้จะได้กินอาหารชั้นเลิศจากซ๊อสปรุงรสซะที
ช่วงจากแยกถึงบ้านนาตองไม่มีรูปนะครับ เพราะว่า........
ทางครับ ทางที่เค้าบอกว้าลงเขาตลอด.....เอ่อ คือว่า.....มันลงแค่เนินเดียว....จากนั้น......
ขึ้นซิครับ ขึ้นหนักกว่าทั้งหมดที่ผ่านมาซะอีก ทางก็แคบๆเนินหน้าก็มองไม่ชัด ช่วง3โลสุดท้ายนี่ต้องบอกสุดตรีนครับ
เจ้าหนุ่ยโยกซ้ายโยกขวาอยู่หน้าผม ส่วนป๋าแฮปโน่น เกือบถึงปลายเนินแระ มองไปข้างหลังผมยังไม่เห็นป๋าเหมียนตามมา
ทันใดนั้นเจ้าหนุ่ยที่อยู่ข้างหน้าผมดูเหมือนจะจอดเข็นอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ครับ จอดล้มทั้งยืน.....อุยยยยย...หนุุ่่ย เป็นอะไรหรือเปล่า ผมตะโกนถาม
แต่ผมก็ต้องปั่นผ่านเลยไปนะเพราะหยุดปั่นไม่ได้ไม่งั้นรถจะเสียการทรงตัว....เจ้าหนุ่ยเหมือนจะพูดไม่ออก ผมไม่รอคำตอบนะ แต่บอกเดี๋ยวลุงไปรอบนเนินหน้า
บนยอดเนินที่ผมมารอ มีป๋าแฮปที่รออยู่แล้ว ป๋าเหนียนก็ปั่นมาถึง ผมถามว่าเจ้าหนุ่ยละ ป๋าเหมียนบอกเดี๋ยวๆขอพักเแป๊ป กำลังจะขึ้นมา
รอพักนึงครับ ก็เห็นเจ้าหนุ่ยเข็นกระดึบๆขึ้นมา เออ....ไหวป่าว (ห้ามตอบไม่ไหวนะ) จะถึงอยู่แล้ว กัดฟันหน่อย....
แล้วเราก็ถึงจนได้ครับ.....เข้าโฮมสเตย์ที่โทรมาล่วงหน้า แล้วก็พักผ่อนครับ วันนี้ ได้เวลาซอสปรุงรสแล้วววววว.......
-
นี่ครับ เข้าโฮมสเตย์ ไปชมเต่าตะนอย แล้วก็พักผ่อนครับ อาหารจัดโดยโฮมสเตย์ อร่อยครับ ราคาไม่แพง(จำราคาไม่ได้)
ค่ำคืนนี้ ซอสปรุงรถหมดลังครับ......
-
นี่ครับ วันแรก 70กม.ครับ
-
วันที่2 12/10/60 บ้านนาตอง - ภูพญาพ่อ
เช้านี้เจ้าหนุ่ยมาบอกกับผมว่า...ลุงๆ เอ่อ...ผมขอกลับได้ปะ.....อ้าวเฮ๊ย.....ผมไปต่อไม่ไหว.....เฮยยยยย
บ้านนาตองไม่มีรถโดยสารผ่านนะเฟร้ย ลุงๆอีก2ท่านได้ยินเข้าก็ช่วยกันให้กำลังใจว่า สู้ต่อเหอะ ปลอบขวัญให้กำลังใจกันอยู่พักนึง ครับลุง...ผมจะไปต่อครับ....เย้ห์.....
วันนี้เราไปชมถ้ำกัน เป็นถ้ำที่ขุดพบซากโบราณ จากนั้นก็ไปชมเมืองครับ บ้านนาตองเป็นชุมชนเล็กๆที่ครั้งหนึ่งโดนน้ำหลากจากภูเขาครับ ทราบว่าพัดบ้านหายไปเกือบทั้งหมู่บ้าน แต่นานมาแระ
ในหมู่บ้านมีร่องน้ำไหลกลางหมู่บ้านครับ มีน้ำทั้งปี รอช้าอยู่ใย จัดซะ1เปียกครับ
-
มารอบนี้ ไม่ได้เน้นว่าต้องปั่นไกลครับ ทริปก่อนๆปั่นไกล วันๆปั่นเป็น100โล กว่าจะถึงที่พัก เหนื่อย หมดแรง ทำไรต่อไม่ได้
หลังจากที่เราทานข้าวต้มจากที่โฮมสเตย์เค้าจัดให้แล้ว เราก็จัดข้าวของ อาหารระหว่างทาง เพราะทางที่เราจะไปคาดว่าคงหาของกินยาก
รวมทั้งซอสปรุงรสด้วย.......
เจ้าหนุ่ยขอข้าวต้มที่เหลือใส่ถุงไปกินด้วยครับ
ได้เวลาก็ออกเดินทางกันเลยครับ ปั่นกลับทางเดิม8โล ถึงทางแยกเดิมที่ผ่านมาเลี้ยวซ้ายเข้าแพร่ เราต้องเลี้ยวขวาไปภูพญาพ่อ
จากที่ขาไป ใช้เวลา8โลร่วม2ชม. ขากลับ8โลเท่าเดิมน่าจะไม่ถึง15นาที เราก็มาถึง3แยกเมื่อวานแล้วครับ แล้วทุกคนก็.....อ๋อ.....
เจ๊แกบอกผิด จริงๆคือ ขาไปลงเนินเดียว แล้วขึ้นตลอด ขึ้นชิบหาย ขากลับนี่ซิขึ้นเนินเดียวแล้วลงตลอด ป๊าดดดดดด....
-
จาก3แยกเราเลี้ยวขวา ปั่นมาได้ไม่นานก็หมดถนนดำครับ เข้าสู่ถนนลูกรังหยาบๆ ผ่านน้ำตกลำธารตรงใหนก็ลงแช่ตามระเบียบครับ
ความชันก็ไม่มากเหมือนขึ้นนาตอง แต่ต้องระวังหินให้มาก ยางผมก็เลยแตกอีก1ครั้งครับ
-
ผ่านหมู่บ้านเล็กๆอยู่หมู่บ้านหนึ่ง แวะกินข้าวครับ เอาข้าวกระเพราไข่ดาวที่ให้ทางโฮมสเตย์เค้าจัดมาให้4กล่องนั่งทานไปชมวิวไปตรงที่แวะกินข้าวนี่ดูเหมือนวิวจะสวยสุดของทริปนี้เแระ เพราะอยู่สูงสุดด้วย ลุงทานข้าวกระเพราแสนอร่อย แต่เจ้าหนุ่ยงัดข้าวต้มที่ตุนมาซัด แหมๆๆๆ......
จริงๆอยากพักค้างแรมตรงนี้มากครับ แต่ก็อยากจะไปให้รู้ว่าภูพญาพ่อเป็นเช่นใด เพราะอยู่ไม่ไกลแระ
-
กินอิ่ม วิวดี แต่ก่อนจะออก ยางแฟ๊บ.....รอบนี้ป๋าแฮปครับ....
จากจุดพักปั่นมาอีกไม่ไกลก็ถึงภูพญาพ่อครับ
ภูพญาพ่อคือจุดสูงไม่รู้สุดอะป่าว แต่เป็นเขตแดนแบ่งระหว่างจ.แพร่และจ.อุตรดิตถ์ครับ เค้าสร้างศาลขึ้นมา1ศาลชื่อว่าภูพญาพ่อ อยู่ตรงเขตแดนพอดี ฝั่งหนึ่งก็จะเป็นแพร่ อีกฝั่งเป็นอุตรดิตถ์ จุดที่ศาลก็เป็นโค้งหักศอกพอดี มีที่ปักเต็นท์ริมถนนอยู่หน่อยนึง แล้วก็มีห้องน้ำครับ
มันไม่ใช่สถานที่พักค้างแรมใหญ่ๆ แต่ก็พักได้ครับ
-
วันที่2นี่แดดยังร้อนเหมือนเดิมครับ แต่ปั่นขึ้นเขาได้ต้นไม้ช่วยบังแสงอาทิตย์เลยไม่รู้สึกร้อนเท่าใหร่
ที่ภูพญาพ่อเราก็ปักเต็นท์กันนอนครับ แบกมาตั้งไกล ได้ใช้แระ ห้องน้ำมี1ห้อง เพียงพอครับ เพราะไม่มีใครนอกจากพวกเรา
ตลอดระยะทางจากบ้านนาตองมาถึงนี่ไม่มีรถสวนมาซั๊กคันครับ บ้านคนก็แทบไม่มี ร้านค้าร้านอาหารไม่ต้องหาครับ
มันไม่ใชเส้นทางหลัก ฉะนั้นคืนนนี้.....บรื้อออ......
ยังดีที่มีมาม่าตุนมาพอได้เป็นอาหารมื้อเย็น กินกะซอสปรุงรสครับ แต่......
เจ้าหนุ่ยงัดข้าวกระเพราะที่ยังไม่ได้กินออกมากิน.....ลุงๆนั่งมองหน้ากัน แล้วก้มหน้าก้มตาโซ้ยมาม่าตบด้วยซอสปรุงรถกันอย่างฝืดคอครับ
-
วันที่3 13/4/60 ภูพญาพ่อ-ท่าปลา
เมื่อวานเราปั่นกันแค่ 34โลเองครับ สบายๆ ขึ้นเขา ทางลูกรัง ค่อยๆชันขึ้นไปเรื่อยๆ
นี่ครับ เส้นทางเมื่อวาน
-
ต่อกันเลยครับ
เช้าวันนี้ที่ภูพญาพ่อพวกเราก็ต่างเก็บข้าวของแพ็คท้ายจักยาน เดินทางต่อ จุดหมายปลายทางอยู่ที่อ.ท่าปลาจ.อุตรดิตถ์ครับ แต่สำหรับที่พักไม่มีในแผนครับ กะไปปักเต็นท์นอนที่ใดที่หนึ่งของท่าปลา
ตามเรามาเลยครับ.......
ต้องบอกว่าจากที่ที่เราพัก(ภูพญาพ่อ) ต่อจากนี้ลงเขาตลอดนะครับ แต่ก็ ทางลูกรังยาวเลย.....ยาวไป ใครชอบดาวฮิลล์ขอแยะนำเลยครับ เจ้าหนุ่ย ป๋าแฮป ป๋าเหมียนดูแกจะชอบเป็นพิเศษ ทิ้งผมอยู่ข้างหลังอย่างไม่เห็นฝุ่นครับ กว่าจะทันทั้ง3เค้าต้องจอดรอครับ แล้วหลังจากนั้นผมไม่ยอมให้คลาดสายตาครับ ปั่นอยู่ข้างหลังคันเดียวโครตจะวังเวงชอบกลครับ..
สำหรับซอสปรุงรสเรายังหอบหิ้วขวดเปล่ามาทิ้งข้างล่างครับ
-
จากบนยอดดอยสู่เบื่องล่าง แป๊ปเดียวเราก็ถึงทางราบเบื่องล่างครับ ไม่ช้าเราก็ถึงท่าปลา วนๆกันไปหลายที่ครับ ผ่านสันเขื่อนสวยดีก็แวะถ่ายรูปกันหน่อยตาประสาทริปชายโสด
-
สุดท้ายเราก็ได้ที่พักสำหรับค่ำคืนนี้ครับ เป็นที่พักในแพริมน้ำซึ่งเราใช้ทั้งเสน่ห์ ทั้งกลลวงหลอกล่อเจ้าของแพจนในที่สุดก็ได้ราคาตามที่เราต้องการ จริงๆเจ๊(เจ้าของแพ)แกให้เรานอนฟรี....อิอิ ไม่ใช่......
เป็นอันว่า วันนี้เราไม่ต้องกางเต็นท์นอนนะครับ นอนมันในแพนี่ล่ะ อาหารการกินก็สั่งเจ้เอา
-
อยากินอะไรกิน อยากสั่งอะไรสั่ง(ตามเมนู) ถ้าอยากกินนอกเมนูบอกเจ้แกได้ แกจัดได้ทุกอย่าง ดีไม่ดีให้เราไปทำเอง แต่เกรงใจ ให้เจ้ทำให้ดีกว่า
สารพัดเมนูปลา ในรูปนี่แค่ส่วนหนึ่งนะ อยากกินเบียร์ไรไปหยิบเอา อยากคาราโอเกะเชิญ เปิดเองเลยนะ.......แหมๆ.....เจ้จัดให้........
-
วันนี้เลยเป็นวันรีแล็กซ์ของเราอย่างแท้จริงครับ อยากเล่นน้ำเล่น
-
อยากเล่นท่าเชิญญญญญ.....
-
ทีเด็ด ต้องท่านี้ครับ ป๋าแฮปขอโชว์
-
โดดน้ำเสร็จก็กินต่อ......
-
เมียไม่มาดีนัก
-
สุขใจที่ได้ช้าง
-
ช้างหมดเอาเสือมาปลอบนิดหน่อย
นี่เลยครับ แพคุณแต๋น
(ไปอีกทีไม่รู้ขึ้นแบล็คลิสต์หรือเปล่า.....อุอุอุ)
-
ว้า จะปิดทริปแระ ค่อยต่อพรุ่งนี้แระกัน.....อิอิ
-
นี่ครับเส้นทางจากภูพญาพ่อถึงท่าปลา พักในเขื่อน
ปั่นไม่เยอะ แค่ 34โลเอง
-
วันที่4 14/4/60
วันนี้ปิดทริปแล้วครับ เก็บสัมภาระออกจากเขื่อน ปั่นมุ่งหน้าสู่อุตรดิตถ์ครับ
ถึงแยกวังสีสูบป๋าเหมียนแยกปั่นขึ้นแพร่ต่อ พวกผม3คนปั่นเข้าเมือง วันนี้เราจะเอาจักรยานใส่รถทัวร์กลับครับ
ก่อนขึ้นรถทัวร์ก็ปั่นเล่นในเมืองนิดหน่อย เชื่อใหมครับ4วันที่ผ่านมามันเป็นวันสงกรานต์ แต่ผมไม่เห็นที่ใหนเล่นสงกรานต์เลย
วันนี้ปั่นเข้าเมืองเจอคนเล่นน้ำอยู่สองสามกลุ่ม ดีใจ๊ดีใจ
ขึ้นรถทัวร์ตอนบ่าย พี่ท่านซัดซะ120 ไม่รู้จะรีบไปใหน ถึงกทม.4ทุ่ม อยากทันใจนี่เลยครับ แนะนำ วินทัวร์ แต่ผมไม่เอาด้วยแระ
ขอบคุณป๋าซิกมากที่มารับเจ้าหนุ่ย ผมกะป๋าป๋าแฮปได้ติดรถกลับด้วย อิอิ
-
เที่ยวโดยการปั่นมันได้สุขภาพดีๆกลับมาครับ ทริปหน้าไปด้วยกันนะ นะๆๆ.....
ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตาม แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าครับ
จากพวกเรา แก็งค์ ริมมอร์.... (ริมมอร์เตอร์เวย์ครับ)
-
ปั่นได้ทุกที่ ที่มีซอสปรุงรส
-
;D ;D ;D